>
บทความ
3G, นโยบายโทรคมนาคม

ทำไมต้องเปลี่ยนซิมเพื่อใช้ 3G 2100MHz

เมื่อผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้ง 3 รายได้ใบอนุญาตจากกสทช.แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการขอใบอนุญาตนำเข้าอุปกรณ์ 2100MHz และขอ MNC หรือ Mobile Network Code ซึ่งเป็นหมายเลขประจำตัวของ Mobile Network Operator (MNO) ในแต่ละประเทศ เป็นตัวเลขระหว่าง 00-99

MVNO เช่น i-mobile3GX และ TruemoveH ไม่มี Mobile Network Code เป็นของตัวเอง ต้องใช้ code เดียวกับเจ้าของเครือข่ายคือ TOT และ CAT โดย Mobile Network Code จะปรากฏให้เห็นเวลาสแกนหาเครือข่าย เป็นเลข 2 หลักที่เขียนต่อท้าย 520 (520 คือ Mobile Country Code ของประเทศไทย) ถ้ามือถือหรือซิมของเรารู้จัก Mobile Network Code นั้น มันจะไม่แสดงผลเป็น 520-xx แต่จะแสดงเป็นชื่อเครือข่ายแทน เช่น 520-18 จะแสดงชื่อเป็น dtac

Mobile Network Code ของผู้ให้บริการมือถือไทยมีดังนี้

00=CAT 3G850MHz
01=AIS
02=CAT CDMA
15=TOT3G
18=dtac
23=DPC GSM1800
99=Truemove

เมื่อกสทช.ออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ให้เอกชน 3 บริษัท จึงถือว่ามี MNO เกิดใหม่ 3 ราย แต่ละรายจะมี Mobile Network Code เป็นของตัวเอง และถึงแม้ว่า 3 บริษัทนี้จะเป็นบริษัทลูกของ AIS dtac Truemove แต่จะใช้ Mobile Network Code เดิมไม่ได้ เพราะต้องแยกเครือข่ายใหม่ออกจากสัมปทาน

ซิมการ์ดแต่ละใบมีเลขประจำตัว 15 หลักที่ไม่ซ้ำกันเลย เรียกว่า IMSI ซึ่งของไทยมี format 520-xx-yyyyyyyyyy โดย xx คือ Mobile Network Code

หมายเลขประจำซิมมี Mobile Country Code และ Mobile Network Code เป็นส่วนประกอบเพื่อบอกให้รู้ว่าเป็นซิมของผู้ให้บริการรายใด ในการใช้บริการคงสิทธิเลขหมาย (ย้ายค่าย เบอร์เดิม) เราต้องเปลี่ยนซิมเพราะต้องเปลี่ยน Mobile Network Code ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของIMSI ในซิม ในการเปลี่ยนมาใช้ 3G 2100MHz เราก็ต้องเปลี่ยนซิมเช่นกัน เพราะ Network Code เปลี่ยน IMSI เปลี่ยน

ซิมรุ่นใหม่ๆรองรับการโปรแกรมเปลี่ยนรหัส IMSI ในซิมได้ ถ้าใช้ซิมใหม่ก็อาจไม่ต้องเปลี่ยนซิมครับ ทั้งนี้ขึ้นกับผู้ให้บริการ

Posted with WordPress for BlackBerry.

การสนทนา

ยังไม่มีความเห็น

ใส่ความเห็น

Top Rated